โคมไฟโรงงานอุตสาหกรรมมีกี่แบบ เหมาะกับการใช้งานยังไงบ้าง
- Greenergy
- 2 วันที่ผ่านมา
- ยาว 2 นาที

แสงสว่างคือปัจจัยพื้นฐานที่ขาดไม่ได้ในทุกโรงงาน แต่รู้หรือไม่ว่าการเลือกโคมไฟโรงงานอุตสาหกรรมที่เหมาะสม ไม่ได้มีผลแค่เรื่องความสว่างเท่านั้น แต่ยังส่งผลโดยตรงต่อประสิทธิภาพการผลิต ความปลอดภัยของพนักงาน และต้นทุนพลังงานมหาศาลที่เจ้าของกิจการต้องแบกรับ บทความนี้บริษัทรับติดตั้งโซล่าเซลล์ครบวงจร GREENERGY จะพาคุณไปทำความรู้จักกับประเภทของโคมไฟโรงงาน วิธีเลือกให้เหมาะกับพื้นที่การผลิตแต่ละแบบ และกลยุทธ์การลดค่าไฟด้วยพลังงานสะอาดที่ยั่งยืน
ทำไมการเลือกโคมไฟโรงงานอุตสาหกรรมจึงสำคัญ
การออกแบบระบบแสงสว่างในโรงงานไม่ใช่เรื่องที่ควรมองข้าม เพราะแสงสว่างที่ดีคือรากฐานของ Productivity และ Safety ในการทำงาน การเลือกโคมไฟโรงงานอุตสาหกรรมที่มีคุณภาพและเหมาะสมกับลักษณะงาน จะช่วยแก้ปัญหาได้หลายด้าน ตั้งแต่การลดอุบัติเหตุไปจนถึงการประหยัดงบประมาณในระยะยาว
ผลกระทบต่อความปลอดภัยและมาตรฐานการทำงาน
แสงสว่างที่ไม่เพียงพอหรือมีคุณภาพต่ำ (เช่น มีแสงกะพริบหรือค่าความถูกต้องของสีเพี้ยน) เป็นสาเหตุหลักของความเหนื่อยล้าทางสายตา ซึ่งนำไปสู่ความผิดพลาดในการทำงานและอุบัติเหตุร้ายแรงได้ นอกจากนี้ ตามกฎหมายแรงงานยังมีข้อกำหนดเรื่องค่าความสว่าง (Lux) ในพื้นที่ทำงานที่ต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด การเลือก โคมไฟแรงงาน หรือโคมไฟที่ออกแบบมาเพื่อผู้ปฏิบัติงานโดยเฉพาะ จึงช่วยสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยและถูกสุขลักษณะ
ผลกระทบโดยตรงต่อต้นทุนค่าไฟฟ้าของโรงงาน
ระบบแสงสว่างมักคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 10-20% ของบิลค่าไฟในโรงงานทั่วไป การเลือกใช้โคมไฟรุ่นเก่าที่กินไฟมากหรือมีการสูญเสียความร้อนสูง จะทำให้ต้นทุนการผลิตต่อหน่วยเพิ่มขึ้นโดยไม่จำเป็น ในทางกลับกัน การเลือกโคมไฟโรงงานอุตสาหกรรมที่มีประสิทธิภาพสูง (High Efficiency) จะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายส่วนนี้ลงได้ทันที และเมื่อทำงานร่วมกับระบบจัดการพลังงาน ก็จะยิ่งเพิ่มความคุ้มค่าได้อีกหลายเท่าตัว
รู้จักประเภทของโคมไฟโรงงานอุตสาหกรรมที่นิยมใช้
ในตลาดปัจจุบันมีโคมไฟสำหรับอุตสาหกรรมให้เลือกหลากหลายรูปแบบ ซึ่งแต่ละแบบถูกออกแบบมาเพื่อวัตถุประสงค์และสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกัน
โคมไฟไฮเบย์ (LED High Bay)
เป็นพระเอกของโคมไฟโรงงานอุตสาหกรรมที่นิยมใช้มากที่สุด ออกแบบมาสำหรับติดตั้งในอาคารที่มีเพดานสูง (โดยปกติสูงกว่า 6 เมตรขึ้นไป) ให้แสงสว่างที่ครอบคลุมพื้นที่กว้างและสม่ำเสมอ ปัจจุบันนิยมใช้แบบ LED เพราะประหยัดไฟกว่าแบบหลอดเมทัลฮาไลด์เดิมถึง 50-70% และมีความร้อนต่ำ
โคมไฟแบบกันน้ำกันฝุ่น (IP Rated / Waterproof)
เหมาะสำหรับโรงงานที่มีสภาวะแวดล้อมเฉพาะ เช่น มีความชื้นสูง มีฝุ่นละอองฟุ้งกระจาย หรือต้องมีการฉีดล้างทำความสะอาดบ่อยครั้ง โคมไฟประเภทนี้จะมีการซีลปิดสนิทตามมาตรฐาน IP (Ingress Protection) เช่น IP65 หรือ IP66 เพื่อป้องกันความเสียหายและไฟฟ้าลัดวงจร
โคมไฟกันระเบิด (Explosion Proof)
เป็นโคมไฟที่มีความสำคัญสูงสุดในพื้นที่ที่มีความเสี่ยง หรือ Hazardous Area เช่น โรงงานปิโตรเคมี โรงงานพ่นสี หรือคลังเก็บวัตถุไวไฟ ตัวโคมถูกออกแบบโครงสร้างให้แข็งแรงพิเศษเพื่อกักเก็บประกายไฟที่อาจเกิดขึ้นภายในไม่ให้ออกไปจุดระเบิดก๊าซหรือไอระเหยภายนอก
โคมไฟสปอตไลท์ (LED Flood Light)
เน้นการให้แสงสว่างที่มีความเข้มสูงในทิศทางที่กำหนด เหมาะสำหรับการส่องสว่างพื้นที่เฉพาะจุด ลานจอดรถ พื้นที่ขนถ่ายสินค้าภายนอกอาคาร หรือใช้ส่องป้ายโฆษณา เพื่อความปลอดภัยและการรักษาความปลอดภัยในยามค่ำคืน
วิธีเลือกโคมไฟให้เหมาะกับพื้นที่การผลิต
เพื่อให้การลงทุนคุ้มค่าที่สุด ต้องเลือกประเภทของโคมไฟโรงงานอุตสาหกรรมให้สอดคล้องกับกิจกรรมในแต่ละพื้นที่
พื้นที่คลังสินค้าและโถงการผลิต
พื้นที่เหล่านี้มักมีเพดานสูงและต้องการแสงสว่างที่สม่ำเสมอทั่วถึงเพื่อการมองเห็นที่ชัดเจนในการเคลื่อนย้ายสินค้าหรือคุมเครื่องจักร โคมไฟไฮเบย์ (High Bay) จึงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด โดยควรเลือกมุมกระจายแสง (Beam Angle) ให้เหมาะกับความสูงและความกว้างของทางเดิน
พื้นที่ไลน์ผลิตที่ต้องการความสะอาด
โรงงานอาหาร ยา หรือชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ต้องการความสะอาดสูงและห้ามมีเศษกระจกปนเปื้อน ควรเลือกใช้โคมไฟโรงงานอุตสาหกรรมแบบ LED ที่มีฝาครอบมิดชิด (เช่น Polycarbonate) ทำความสะอาดง่าย ไม่มีซอกมุมให้ฝุ่นเกาะ และควรมีค่า CRI (Color Rendering Index) สูงเพื่อความถูกต้องของการตรวจสอบสีสินค้า
พื้นที่จัดเก็บสารเคมีและพื้นที่เสี่ยง
ในโซนที่มีการใช้สารระเหย ก๊าซไวไฟ หรือฝุ่นแป้งที่ติดไฟได้ ห้ามใช้โคมไฟทั่วไปเด็ดขาด ต้องเลือกใช้ โคมไฟกันระเบิด (Explosion Proof) ที่ได้รับมาตรฐานรับรองความปลอดภัยระดับสากลเท่านั้น เพื่อป้องกันโศกนาฏกรรม
พื้นที่ภายนอกและลานโหลดสินค้า
พื้นที่โล่งแจ้งต้องเผชิญแดดและฝน ควรเลือกใช้โคมไฟ Flood Light ที่มีค่ามาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น (IP Rating) ตั้งแต่ IP65 ขึ้นไป เพื่อความทนทานและอายุการใช้งานที่ยาวนาน
โคมไฟโรงงานอุตสาหกรรมกับการลดต้นทุนพลังงานด้วยโซล่าเซลล์
การเปลี่ยนโคมไฟเป็นเพียงจุดเริ่มต้น แต่การบริหารจัดการแหล่งพลังงานคือหัวใจสำคัญของการลดต้นทุนที่แท้จริง GREENERGY ขอแนะนำแนวทางบูรณาการดังนี้
โคมไฟ LED: ก้าวแรกสู่การลดการใช้พลังงานในโรงงาน
การเปลี่ยนมาใช้โคมไฟโรงงานอุตสาหกรรมแบบ LED คือมาตรการพื้นฐานที่ช่วยลดการใช้ไฟฟ้าได้ทันที แต่หากโรงงานยังคงใช้ไฟฟ้าจากสายส่ง 100% ต้นทุนค่าไฟก็ยังคงแปรผันตามค่า Ft และช่วงเวลา TOU
โซล่าเซลล์: แหล่งพลังงานสะอาดสำหรับแสงสว่างในโรงงาน
เนื่องจากโรงงานส่วนใหญ่ดำเนินงานในช่วงเวลากลางวัน การติดตั้งระบบ Solar Rooftop จะช่วยผลิตไฟฟ้าเพื่อจ่ายให้กับระบบแสงสว่างและเครื่องจักรได้โดยตรง ซึ่งเป็นการลดภาระค่าไฟฟ้าในช่วง On-Peak (ช่วงที่ค่าไฟแพงที่สุด) ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ทำให้ต้นทุนการเปิดไฟในโรงงานลดลงจนเกือบเป็นศูนย์ในเวลากลางวัน
การใช้ Energy Management System เพื่อควบคุมระบบแสงสว่างอัตโนมัติ
เมื่อนำโคมไฟโรงงานอุตสาหกรรมมาทำงานร่วมกับระบบจัดการพลังงาน (EMS) จะสามารถตั้งค่าการเปิด-ปิด หรือหรี่แสงอัตโนมัติตามความเข้มของแสงธรรมชาติ หรือตามตารางการทำงานจริง ช่วยลดการใช้พลังงานที่สูญเปล่าจากความผิดพลาดของมนุษย์ (Human Error) ได้อย่างสมบูรณ์
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
การเปลี่ยนมาใช้โคมไฟ LED โรงงาน คืนทุนนานหรือไม่
โดยทั่วไปจุดคุ้มทุนจะอยู่ที่ประมาณ 1-2 ปี ขึ้นอยู่กับชั่วโมงการใช้งาน ยิ่งเปิดใช้งานนาน ยิ่งคืนทุนเร็ว และหลังจากนั้นคือกำไรจากการประหยัดค่าไฟ
ค่า IP Rating ที่เหมาะสมสำหรับโรงงานควรเป็นเท่าไหร่
สำหรับพื้นที่ทั่วไป IP54 ก็เพียงพอ แต่หากเป็นพื้นที่ที่มีฝุ่นมากหรือมีความชื้น ควรเลือก IP65 ขึ้นไป เพื่อป้องกันความเสียหาย
เราสามารถใช้โซล่าเซลล์กับระบบโคมไฟเดิมได้หรือไม่
ได้ทันทีครับ ระบบโซล่าเซลล์จะเชื่อมต่อเข้ากับตู้ MDB หลักของโรงงาน และจ่ายไฟให้กับโหลดไฟฟ้าทุกชนิด รวมถึงโคมไฟโรงงานอุตสาหกรรมเดิมที่มีอยู่ได้เลย
โคมไฟกันระเบิดจำเป็นสำหรับทุกโรงงานหรือไม่
ไม่จำเป็นครับ ใช้เฉพาะในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่อการติดไฟหรือระเบิดตามที่วิศวกรความปลอดภัยกำหนดเท่านั้น พื้นที่ทั่วไปใช้โคมไฟโรงงานปกติได้
สรุปบทความ
การเลือกโคมไฟโรงงานอุตสาหกรรมให้เหมาะสมกับพื้นที่การผลิต ไม่ใช่แค่เรื่องของความสว่าง แต่คือการลงทุนเพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพการทำงาน แต่หากคุณต้องการผลลัพธ์ที่ยั่งยืนที่สุด การผสานการใช้โคมไฟคุณภาพสูงเข้ากับการผลิตไฟฟ้าใช้เองด้วยโซล่าเซลล์ คือคำตอบที่จะช่วยลดต้นทุนพลังงานของโรงงานได้อย่างมหาศาล
หากคุณกำลังมองหาแนวทางลดค่าไฟโรงงานแบบครบวงจร ทั้งการติดตั้งโซล่าเซลล์และการจัดการพลังงาน GREENERGY พร้อมให้คำปรึกษาและออกแบบโซลูชันที่คุ้มค่าที่สุดสำหรับธุรกิจของคุณ เพราะบริษัท กรีนเนอร์ยี่ ประเทศไทย จำกัด เป็นบริษัทโซล่าเซลล์ครบวงจรที่มีทีมวิศวกรผู้เชี่ยวชาญพร้อมให้คำปรึกษา ออกแบบ รับติดตั้งโซล่าเซลล์และดูแลตลอดอายุการใช้งาน ท่านสามารถติดต่อสอบถาม หรือขอคำปรึกษาได้ตามช่องทางดังนี้
เบอร์ติดต่อ : ฝ่ายขาย 081-235-6832
Line : @greenergy
อีเมล : sales@greenergythailand.com
เว็บไซต์ : www.greenergythailand.com
ที่ตั้ง: บริษัท กรีนเนอร์ยี่ (ประเทศไทย ) จำกัด เลขที่ 252/131-132(A-B) อาคารเมืองไทย-ภัทร คอมเพล็กซ์ ตึก บี ชั้นที่ 30 ถนนรัชดาภิเษก แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง กรุเทพมหานคร 10310




ความคิดเห็น