ปัจจุบัน พลังงานสะอาดกำลังเป็นที่นิยม โดยเฉพาะการติดตั้งระบบโซล่าเซลล์ เพื่อผลิตไฟฟ้าใช้งานเองในบ้าน หรือในธุรกิจจึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ แต่ก่อนจะเริ่ม เราจำเป็นต้องรู้จักกับอุปกรณ์โซล่าเซลพื้นฐานที่สำคัญ ประกอบไปด้วย 5 ส่วนหลัก ได้แก่ แผงโซลาร์เซลล์ อินเวอร์เตอร์ แบตเตอรี่ ตัวควบคุมการชาร์จ และสายไฟพร้อมขั้วต่อ อุปกรณ์เหล่านี้จะทำงานร่วมกัน เพื่อเปลี่ยนพลังงานแสงอาทิตย์ให้กลายไฟฟ้าที่เราใช้งาน ไปดูกันว่าอุปกรณ์แต่ละชิ้นมีความสำคัญอย่างไร ให้คุณทำความเข้าใจและติดตั้งโซล่าเซลล์ได้อย่างปลอดภัย
5 อุปกรณ์โซล่าเซลพื้นฐานที่ต้องมี
1. แผงโซลาร์เซลล์ (Solar Panels)
หากพูดถึงพลังงานแสงอาทิตย์สิ่งแรกที่หลาย ๆ คนนึกถึงเลย คือแผงโซลาร์เซลล์ นับว่าเป็นอุปกรณ์โซล่าเซลที่สำคัญมากของการผลิตพลังงานสะอาดนี้ ผลิตขึ้นมาจากวัสดุซิลิคอนขนาดสี่เหลี่ยม และนำมาวางเรียงกันให้กลายเป็นแผงโซลาร์เซลล์ ซึ่งจะทำหน้าที่รับแสงอาทิตย์ ผลิตพลังงานเพื่อจ่ายกระแสไฟฟ้าในกระแสตรง (DC) โดยจะถูกนำไปแปลงเป็นไฟฟ้ากระแสสลับ (AC) ผ่านอีกหนึ่งอุปกรณ์ คืออินเวอร์เตอร์ (Inverter)
โดยทั่วไปมี 3 ประเภทหลัก คือ แผงโมโนคริสตัลไลน์ (Monocrystalline) แผงโพลีคริสตัลไลน์ (Polycrystalline) และแผงอะมอร์ฟัส (Amorphous) แต่ละประเภทก็จะแตกต่างออกไปตามความใช้งาน ทั้งนี้ ควรเลือกซื้อสินค้าที่ผ่านการรับรองมาตรฐานการผลิต เพื่อให้คุณได้มั่นใจในคุณภาพ และระยะเวลาในการใช้งานที่ยาวนานขึ้น
2. อินเวอร์เตอร์ (Inverter)
อินเวอร์เตอร์ (Inverter) คืออุปกรณ์โซล่าเซลที่ต้องใช้งานร่วมกับแผงโซลาเซลล์ หลังจากที่แผงโซลาร์เซลล์รับแสงอาทิตย์มาเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้า แต่หากจะนำกระแสไฟตรง (DC) นั้นมาใช้งาน จำเป็นต้องมีอินเวอร์เตอร์ เพื่อแผลงไฟฟ้าให้กลายเป็นกระแสสลับ (AC) ซึ่งจะเป็นกระแสไฟฟ้าที่ใช้ในไฟบ้าน มี 2 ประเภทหลัก ได้แก่
อินเวอร์เตอร์แบบออนกริด (Grid-tie Inverter) เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเก็บพลังงานไฟฟ้าไว้ใช้ในสถานการณ์ฉุกเฉิน
อินเวอร์เตอร์แบบออฟกริด (Off-grid Inverter) เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการประหยัดค่าไฟ ติดตั้งอินเวอร์เตอร์ออฟกริด สามารถใช้กระแสไฟฟ้าทั้งจากแผงโซลาร์เซลล์ และไฟฟ้าจากการไฟฟ้าได้ ในกรณีที่มีการผลิตเกิน ยังสามารถขายไฟฟ้าคืนให้แก่การไฟฟ้าได้ด้วย
3. แบตเตอรี่ (Battery Storage)
ถึงแม้พลังงานแสงอาทิตย์จะเป็นพลังงานที่ไม่มีวันหมดไปก็จริง แต่ในช่วงเวลากลางคืนที่ค่อนข้างมืด ไม่มีแสงเพียงพอต่อการผลิตไฟฟ้า อุปกรณ์โซล่าเซลอีกหนึ่งสิ่งที่ควรจะต้องมี คือแบตเตอรี่ (ฺBattery Storage) ซึ่งจะทำหน้าที่กักเก็บกระแสไฟฟ้าที่ผลิตในช่วงกลางวัน เพื่อนำมาใช้ในช่วงกลางคืน หรือช่วงที่มีแสงแดดไม่เพียงพอ นอกจากนี้ ยังถูกออกแบบให้สามารถทำงานร่วมกับเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ต้องการกระแสไฟสูงได้
4. ตัวควบคุมการชาร์จ (Charge Controller)
เนื่องจากเป็นการผลิตไฟฟ้ากระแสตรง แล้วแปลงเป็นกระแสสลับ จึงจำเป็นต้องระมัดระวังในการใช้ตลอด เพราะฉะนั้นการมีอุปกรณ์โซล่าเซลอย่างตัวควบคุมการชาร์จ (Charge Controller) มาช่วยควบคุมการชาร์จไฟจากแผงโซลาร์เซลล์เข้าสู่แบตเตอรี่ ป้องกันการคายประจุของแบตเตอรี่ที่มากเกินไป ซึ่งอาจทำให้แบตเตอรี่เสื่อมสภาพเร็ว ทำให้การใช้งานของระบบพลังงานแสงอาทิตย์สั้นลง ดังนั้น ควรเลือกตัวควบคุมการชาร์จที่สามารถรองรับแรงดันระบบไฟฟ้าที่เหมาะสมได้ และยังต้องมีคุณสมบัติในการป้องกันไฟฟ้าลัดวงจร การไหลย้อนกลับไฟฟ้า เพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน
5. สายไฟและขั้วต่อ (Cables and Connectors)
เพื่อประสิทธิภาพและความปลอดภัยในการใช้พลังงานไฟฟ้าผ่านระบบโซลาร์เซลล์ อุปกรณ์โซล่าเซล อย่าง สายไฟจึงจำเป็นต้องทนทานต่อทุกสภาพอากาศ และรังสี UV ได้ดี โดยปกติ นิยมใช้สายไฟแบบ PV wire หรือ USE-2 wire เชื่อมต่อระหว่างแผงโซลาร์เซลล์เข้าด้วยกัน ส่วนขั้วต่อที่นิยมใช้ เช่น MC4 connector ซึ่งมีคุณสมบัติกันน้ำและทนทานต่อสภาพแวดล้อมภายนอก ทั้งนี้ การเลือกใช้งานสายไฟและขั้นต่อควรคำนึงถึงกระแสไฟฟ้าสูงสุดที่จะไหลผ่าน เพื่อป้องกันอันตรายจากการใช้งานที่อาจเกิดขึ้นได้
สรุป
การเลือกโซลาเซลล์บ้านหรือธุรกิจต้องคำนึงถึงอุปกรณ์โซล่าเซลทั้ง 5 ประเภทนี้เป็นหลัก ได้แก่ แผงโซลาร์เซลล์ อินเวอร์เตอร์ แบตเตอรี่ ตัวควบคุมการชาร์จ และสายไฟพร้อมขั้วต่อ แต่ละชิ้นส่วนมีบทบาทสำคัญในการทำงานของระบบ
ติดตั้งอุปกรณ์โซล่าเซล โซล่าเซลล์บ้านให้ GREENERGY บริการคุณ เพราะเรามีทีมวิศวกรผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำแนะนำ ปรึกษา ออกแบบ พร้อมบริการติดตั้งและดูแลตลอดอายุการใช้งาน ให้คุณได้ใช้งานระบบโซลาร์เซลล์ได้อย่างมีประสิทธิภาพและคุ้มค่ามากที่สุด
Comments