ไขข้อสงสัยใช้ไฟจากโซล่าเซลล์ตอนไฟตกได้ไหม เลือกระบบไหนดี
- Greenergy
- 30 ก.ย.
- ยาว 1 นาที

หลายท่านที่กำลังสนใจติดตั้งโซล่าเซลล์ นอกจากความต้องการที่จะประหยัดค่าไฟแล้ว อีกหนึ่งความคาดหวังคือการมีระบบไฟฟ้าที่เสถียรขึ้น โดยเฉพาะเมื่อต้องเผชิญกับปัญหาไฟตกที่สร้างความรำคาญและอาจทำให้อุปกรณ์ไฟฟ้าเสียหายได้ จึงเกิดคำถามสำคัญว่า "ถ้าเราติดตั้งโซล่าเซลล์แล้ว จะสามารถใช้ไฟฟ้าในช่วงที่เกิดกระแสไฟตกได้หรือไม่?" บทความนี้จาก GREENERGY จะมาไขทุกข้อสงสัยอย่างละเอียด พร้อมแนะนำโซลูชันและระบบที่เหมาะสมที่สุดในการแก้ปัญหานี้อย่างยั่งยืน
กระแสไฟตกคืออะไร แตกต่างจากไฟดับอย่างไร

ก่อนจะไปถึงวิธีแก้ปัญหา เราต้องทำความเข้าใจลักษณะของปัญหากันก่อน หลายคนมักสับสนระหว่าง "ไฟตก" และ "ไฟดับ" ซึ่งในทางเทคนิคแล้วมีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน
อาการของกระแสไฟตก (Voltage Sag)
กระแสไฟตก หรือ ไฟตก คือภาวะที่แรงดันไฟฟ้าในระบบสายส่งลดต่ำลงกว่าระดับปกติชั่วขณะ (มักเกิดขึ้นในเวลาสั้นๆ ตั้งแต่มิลลิวินาทีถึงไม่กี่วินาที) โดยที่ไฟฟ้ายังไม่ดับสนิท อาการที่สังเกตได้ง่ายคือหลอดไฟจะกะพริบหรือหรี่ลง, เครื่องปรับอากาศอาจมีเสียงดังผิดปกติ, หรือคอมพิวเตอร์อาจรีสตาร์ทเอง ซึ่งภาวะนี้สามารถสร้างความเสียหายให้กับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่อ่อนไหวได้ในระยะยาว
สาเหตุที่ทำให้เกิดกระแสไฟตก
สาเหตุส่วนใหญ่ของปัญหาไฟตกมักเกิดจากความไม่สมดุลในระบบโครงข่ายไฟฟ้า เช่น การมีปริมาณความต้องการใช้ไฟฟ้าในพื้นที่สูงเกินกว่ากำลังการผลิตชั่วขณะ, การเปิดใช้งานเครื่องจักรขนาดใหญ่ในโรงงานที่อยู่ใกล้เคียง, หรืออาจเกิดจากปัญหาในสถานีไฟฟ้าต้นทาง การเกิดกระแสไฟตกจึงเป็นสัญญาณของระบบไฟฟ้าที่ไม่เสถียร
ระบบโซล่าเซลล์แต่ละประเภทตอบสนองต่อภาวะกระแสไฟตกอย่างไร

คำตอบของคำถามที่ว่า "ใช้ไฟโซล่าเซลล์ตอนไฟตกได้ไหม" นั้น ขึ้นอยู่กับ "ประเภท" ของระบบโซล่าเซลล์ที่คุณติดตั้งโดยตรง ซึ่งแต่ละระบบมีกลไกการตอบสนองที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
ระบบออนกริด (On-Grid) กับปัญหาไฟตก
ระบบโซล่าเซลล์แบบ On-Grid ซึ่งเป็นที่นิยมที่สุดสำหรับบ้านพักอาศัยและโรงงานทั่วไป ถูกออกแบบมาพร้อมกับมาตรฐานความปลอดภัยที่เรียกว่า "Anti-islanding" ซึ่งอินเวอร์เตอร์จะทำการตัดการเชื่อมต่อและหยุดทำงานทันทีเมื่อตรวจพบความผิดปกติของระบบไฟฟ้าจากการไฟฟ้า (Grid) ไม่ว่าจะเป็นไฟดับหรือภาวะไฟตกอย่างรุนแรง ดังนั้น คำตอบคือระบบ On-Grid ไม่สามารถจ่ายไฟให้คุณใช้ในช่วงที่เกิดกระแสไฟตกได้
ระบบออฟกริด (Off-Grid) ไม่ได้รับผลกระทบ
เนื่องจากระบบ Off-Grid ไม่ได้มีการเชื่อมต่อใดๆ กับระบบโครงข่ายไฟฟ้าของการไฟฟ้าเลย แต่ผลิตและใช้ไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ของตัวเองเป็นหลัก ดังนั้น ระบบนี้จึงไม่ได้รับผลกระทบใดๆ จากปัญหาไฟตกหรือไฟดับจากการไฟฟ้าเลย และสามารถจ่ายไฟฟ้าที่เสถียรได้อย่างต่อเนื่อง
ระบบไฮบริด (Hybrid) ทางออกอัจฉริยะสำหรับปัญหาไฟตก
ระบบไฮบริดคือโซลูชันที่ถูกออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหานี้โดยเฉพาะ โดยเป็นระบบที่เชื่อมต่อกับการไฟฟ้าเหมือน On-Grid แต่มีแบตเตอรี่สำรองไฟเหมือน Off-Grid ทำให้มีความสามารถพิเศษในการ "แยกตัว" ออกจากระบบไฟฟ้าหลักเมื่อเกิดปัญหา และสลับไปใช้ไฟฟ้าจากแบตเตอรี่แทนโดยอัตโนมัติ จึงเป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับผู้ที่ต้องการทั้งการประหยัดไฟและความเสถียรของระบบ
ระบบไฮบริด (Hybrid System) แก้ปัญหากระแสไฟตกได้อย่างไร
ระบบโซล่าเซลล์ไฮบริดมีกลไกการทำงานที่ชาญฉลาดซึ่งเปรียบเสมือนการมีเครื่องสำรองไฟ (UPS) ขนาดใหญ่สำหรับบ้านทั้งหลัง ทำให้มันเป็นโซลูชันที่สมบูรณ์แบบในการรับมือกับปัญหากระแสไฟตก
การทำงานของฟังก์ชัน UPS Mode หรือ Backup Mode
อินเวอร์เตอร์ของระบบไฮบริดสมัยใหม่จะมีฟังก์ชัน UPS ในตัว ซึ่งจะคอยตรวจสอบคุณภาพของไฟฟ้าที่มาจากสายส่งตลอดเวลา เมื่อระบบตรวจพบว่าแรงดันไฟฟ้าลดต่ำลงกว่าเกณฑ์มาตรฐานที่ปลอดภัย (เกิดภาวะ ไฟตก) มันจะทำการตัดการเชื่อมต่อจากระบบของการไฟฟ้าโดยอัตโนมัติภายในเวลาเพียงไม่กี่มิลลิวินาที
การจ่ายไฟฟ้าที่เสถียรจากแบตเตอรี่ (BESS)
ทันทีที่ตัดการเชื่อมต่อจากระบบไฟฟ้าภายนอกที่ไม่เสถียร อินเวอร์เตอร์จะสร้าง "ระบบไฟฟ้าจำลอง" (Mini-Grid) ขึ้นมาภายในบ้านทันที โดยดึงพลังงานไฟฟ้ากระแสตรง (DC) ที่เก็บไว้ในแบตเตอรี่ (BESS) มาแปลงเป็นไฟฟ้ากระแสสลับ (AC) ที่มีแรงดัน 220V นิ่งและเสถียร เพื่อจ่ายให้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าของคุณอย่างต่อเนื่อง ทำให้คุณไม่รู้สึกถึงปัญหาไฟตกที่เกิดขึ้นภายนอกเลย
การกลับมาเชื่อมต่อกับกริดโดยอัตโนมัติ
ในขณะที่ทำงานในโหมด Backup ระบบจะยังคงตรวจสอบสถานะของไฟฟ้าจากการไฟฟ้าอยู่เสมอ เมื่อตรวจพบว่าแรงดันไฟฟ้ากลับมาสู่ภาวะปกติและมีความเสถียรเป็นระยะเวลาหนึ่งแล้ว ระบบจะทำการสลับกลับไปเชื่อมต่อกับระบบของการไฟฟ้าอีกครั้งโดยอัตโนมัติ เพื่อกลับเข้าสู่โหมดการทำงานปกติ
ใครบ้างที่ควรเลือกระบบไฮบริดเพื่อแก้ปัญหากระแสไฟตก

ด้วยคุณสมบัติที่โดดเด่นในการสร้างเสถียรภาพทางพลังงาน ระบบไฮบริดจึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ใช้งานที่มีความต้องการเฉพาะทางดังต่อไปนี้
บ้านพักอาศัยที่มีอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่อ่อนไหว
สำหรับบ้านยุคใหม่ที่มีอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ราคาแพงจำนวนมาก เช่น สมาร์ตทีวี, ชุดเครื่องเสียง, คอมพิวเตอร์, หรือระบบ Smart Home การลงทุนในระบบไฮบริดจะช่วยปกป้องอุปกรณ์เหล่านี้จากความเสียหายที่อาจเกิดจากปัญหากระแสไฟตกซ้ำๆ ได้
ธุรกิจและโรงงานที่ต้องการความต่อเนื่องในการทำงาน
สำหรับโฮมออฟฟิศ, คลินิก, ร้านค้า, หรือโรงงานขนาดเล็กที่การหยุดชะงักของไฟฟ้าแม้เพียงชั่วครู่อาจหมายถึงข้อมูลที่สูญหายหรือรายได้ที่ขาดไป ระบบไฮบริดจะช่วยสร้างความต่อเนื่องในการดำเนินงาน ทำให้ธุรกิจของคุณไม่สะดุดจากปัญหาคุณภาพไฟฟ้า
พื้นที่ที่ระบบสายส่งไฟฟ้าไม่เสถียร
บ้านหรือธุรกิจที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ปลายสายส่ง, พื้นที่ชนบท, หรือใกล้กับโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ มักจะเป็นพื้นที่ที่มีโอกาสเกิดปัญหาไฟตกได้บ่อยครั้ง การเลือกระบบไฮบริดจึงเป็นการแก้ปัญหาที่ตรงจุดและยั่งยืนที่สุด
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
ระบบไฮบริดสามารถป้องกันไฟกระชากได้ด้วยหรือไม่
ได้ครับ อินเวอร์เตอร์ของระบบไฮบริดส่วนใหญ่จะมีอุปกรณ์ป้องกันไฟกระชาก (Surge Protection Device) ในตัว ซึ่งช่วยป้องกันความเสียหายได้ทั้งสองทาง
การลงทุนในระบบไฮบริดแพงกว่าระบบออนกริดมากแค่ไหน
ระบบไฮบริดมีราคาสูงกว่าอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากมีต้นทุนของแบตเตอรี่ (BESS) เพิ่มเข้ามา แต่ก็แลกมาด้วยความมั่นคงทางพลังงานและความต่อเนื่องในการทำงาน
แบตเตอรี่ในระบบไฮบริดสามารถสำรองไฟได้นานเท่าไหร่
ระยะเวลาสำรองไฟขึ้นอยู่กับขนาดความจุของแบตเตอรี่และปริมาณการใช้ไฟฟ้า โดยสามารถออกแบบได้ตั้งแต่ 2-4 ชั่วโมงสำหรับเครื่องใช้ไฟฟ้าที่จำเป็น ไปจนถึงการใช้งานทั้งคืน
สรุปบทความ
โดยสรุปแล้ว คำตอบของคำถามที่ว่า "ใช้ไฟจากโซล่าเซลล์ตอนไฟตกได้ไหม?" คือ "ได้ แต่ต้องเป็นระบบไฮบริด (Hybrid) เท่านั้น" ระบบ On-Grid ทั่วไปไม่สามารถแก้ปัญหานี้ได้เนื่องจากข้อกำหนดด้านความปลอดภัย ดังนั้น หากคุณอาศัยอยู่ในพื้นที่ที่เผชิญกับปัญหากระแสไฟตกบ่อยครั้ง การลงทุนในระบบโซล่าเซลล์ไฮบริดจึงไม่ใช่แค่การลงทุนเพื่อความประหยัด แต่คือการลงทุนเพื่อ "คุณภาพไฟฟ้า" และ "ความสบายใจ" อย่างแท้จริง
หากคุณกำลังเผชิญกับปัญหาคุณภาพไฟฟ้าและต้องการโซลูชันที่ตอบโจทย์ ทีมผู้เชี่ยวชาญของ GREENERGY พร้อมให้คำปรึกษาและออกแบบระบบโซล่าเซลล์ไฮบริดที่เหมาะสมกับความต้องการของคุณ เพราะบริษัท กรีนเนอร์ยี่ ประเทศไทย จำกัด มีทีมวิศวกรผู้เชี่ยวชาญพร้อมให้คำปรึกษา ออกแบบ รับติดตั้งโซล่าเซลล์และดูแลตลอดอายุการใช้งาน ท่านสามารถติดต่อสอบถาม หรือขอคำปรึกษาได้ตามช่องทางดังนี้
เบอร์ติดต่อ : ฝ่ายขาย 081-235-6832
Line : @greenergy
อีเมล : sales@greenergythailand.com
เว็บไซต์ : www.greenergythailand.com
ที่ตั้ง: บริษัท กรีนเนอร์ยี่ (ประเทศไทย ) จำกัด เลขที่ 252/131-132(A-B) อาคารเมืองไทย-ภัทร คอมเพล็กซ์ ตึก บี ชั้นที่ 30 ถนนรัชดาภิเษก แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง กรุเทพมหานคร 10310




ความคิดเห็น